istanbul escort istanbul escort şişli escort tbilisi escort şişli escort şişli escort ümraniye escort şişli escort maslak escort istanbul escort beşiktaş escort taksim escort izmir escorts ümraniye escort mecidiyeköy escort şişli escort taksim escort ümraniye escort kartal escort şirinevler escort maltepe escort kadıköy escort vip escort mersin escort ataköy escort avcılar escort beylikdüzü escort okmeydanı escort şişli escort tuzla escort işitme cihazı sex shop sex shop sex shop sex shop sex shop sex shop sex shop sex shop istanbul escorts çekmeköy escort esenler escort bahçeşehir escort çapa escort topkapı escort merter escort aksaray escort halkalı escort
การบริการ

อาการข้างเคียงเมื่อได้รับยาเคมีบำบัดและการปฏิบัติตน

อาการข้างเคียงเมื่อได้รับยาเคมีบำบัดและการปฏิบัติตน


ยาเคมีบำบัดนอกจากจะทำลายเซลล์มะเร็งแล้ว ยังมีผลกระทบต่อเซลล์ปกติที่แบ่งตัวเร็วในร่างกายด้วย เป็นผลให้เกิดอาการข้างเคียงต่าง ๆ เช่น มีไข้ หนาวสั่น ซีด เหนื่อย อ่อนเพลีย มีจุดเลือดจ้ำเลือดตามตัว คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บปากเจ็บคอ ท้องเสีย อุจจาระมีสีดำ ท้องผูก ผมร่วง อาการเหล่านี้มักเกิดหลังจากได้รับยาประมาณ 7-14 วัน นอกจากนี้ อาจพบผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น ผิวหนังและเล็บเปลี่ยนสี ฝ่ามือฝ่าเท้ามีสีดำคล้ำและเจ็บ ชาปลายมือปลายเท้า มีเพศสัมพันธ์ได้ยาก มีบุตรยาก และอารมณ์แปรปรวน เป็นต้น ผลข้างเคียง ที่พบในแต่ละอาการอาจมีความจำเพาะต่อยาแต่ละชนิดหรือขนาดของยาที่ใช้ นอกจากนี้ ผู้ป่วยแต่ละคนอาจตอบสนองต่อยาชนิดและขนาดเดียวกันแตกต่างกันได้

อาการข้างเคียงเหล่านี้มีหลายอย่างที่ป้องกันได้ โดยแพทย์ผู้รักษาจะเป็นผู้พิจารณาให้ยา หรือมาตรการในการป้องกัน อย่างไรก็ตาม ท่านสามารถมีส่วนร่วมในการแก้ไข บรรเทา หรือป้องกันอาการดังกล่าวได้ ดังนั้น ท่านจึงควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการดูแลตัวเองเมื่อได้รับยาเคมีบำบัด เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการรักษาจากยาสูงสุด โดยมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด ตามที่ผู้ป่วยและแพทย์ผู้ทำการรักษาตั้งใจไว้




อาการไข้

อาการไข้ หมายถึง การที่มีอุณหภูมิในช่องปากมากกว่าหรือเท่ากับ 38 องศาเซลเซียส เป็นเวลามากกว่าหรือเท่ากับ 1 ชั่วโมง หรือมีอุณหภูมิรักแร้มากกว่าหรือเท่ากับ 
37.8 องศาเซลเซียส
สาเหตุ ไข้อาจเป็นอาการนำของภาวการณ์ติดเชื้อ หรืออาการของโรคมะเร็งเอง อาจพบภาวะเม็ดเลือดขาว (ซึ่งทำหน้าที่ต่อสู้เชื้อโรคต่าง ๆ) ต่ำลงและเกิดการติดเชื้อ
ได้เมื่อท่านได้รับยาเคมีบำบัด สังเกตได้จากอาการไข้ รู้สึกหนาวสั่น เจ็บรอบ ๆ ทวารหนักหลังการให้ยาเคมีบำบัด โดยเฉพาะในช่วง 7-14 วัน หลังได้รับยาเคมีบำบัด

วิธีป้องกันการติดเชื้อโดยทั่วไป
- ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้ง
- หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นไข้หวัดวัณโรค และงูสวัด เป็นต้น
- เมื่อท่านมีภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่มีผู้คนแออัด เช่น ตลาด โรงภาพยนตร์ หรือห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
- ดูแลร่างกายไม่ให้อับชื้น อาบน้ำให้สะอาดทุกวัน โดยใช้สบู่อ่อน ๆ เช่น สบู่เด็ก
- ระมัดระวังการใช้ของมีคมทุกชนิด
- หากถูกของมีคมบาด ให้รีบทำความสะอาดแผลและปิดด้วยผ้าพันแผล
- ควรสวมถุงมือทุกครั้งเพื่อป้องกันการเกิดแผลเวลาทำสวน หรืองานก่อสร้าง
- ทาครีมหรือโลชั่นถนอมผิว เพื่อป้องกันผิวแห้งแตก
- รับประทานอาหารที่สุกและสะอาด หลีกเลี่ยงของสุก ๆ ดิบ ๆ  หรือของหมักดอง เช่น แหนม ปลาร้า ก้อย ส้มตำ และยำต่าง ๆ เป็นต้น
- เมื่อท่านมีภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผักและผลไม้สด
- แปรงฟันให้สะอาด ด้วยแปรงสีฟันขนนุ่ม
- ควรมีเทอร์โมมิเตอร์สำหรับวัดไข้ติดตัวไว้ ถ้าท่านสงสัยว่ามีไข้ควรวัดอุณหภูมิร่างกายเพื่อยืนยันอาการ
- หากมีอาการไข้ภายหลังจากการได้รับยาเคมีบำบัด ให้รีบมาพบแพทย์โดยด่วน

วิธีการรักษาเมื่อมีไข้
1. รีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดดูว่าเม็ดเลือดขาวต่ำหรือไม่ ถ้าจำนวนเม็ดเลือดขาวต่ำ แพทย์จะฉีดยาปฏิชีวนะให้โดยด่วน และรับตัวไว้รักษาใน
โรงพยาบาลทันที
2. อาจลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในช่วงเม็ดเลือดขาวต่ำ หรือในระยะเวลาที่มีไข้และเม็ดเลือดขาวต่ำได้ด้วยการฉีดยากระตุ้นเม็ดเลือดขาว 
ซึ่งขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ผู้ดูแล
 

โลหิตจาง

อาการ ซีด เหนื่อยง่าย หัวใจเต้นเร็ว เจ็บหน้าอก มึนศีรษะ อาจมีเลือดออกในทางเดินอาหารทำให้อุจจาระมีสีดำ แต่อาการที่พบบ่อยที่สุด คือ อ่อนเพลีย
สาเหตุ เกิดจากเม็ดเลือดแดงมีจำนวนลดลง ซึ่งอาจเป็นผลข้างเคียงของยาเคมีบำบัด มีเลือดออกในทางเดินอาหาร หรือมีการสูญเสียเลือด รวมทั้งภาวะ
โรคมะเร็งเองก็อาจทำให้จำนวนเม็ดเลือดแดงต่ำลงได้เช่นเดียวกัน

วิธีบรรเทาอาการ
- รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กมาก เช่น ตับ ผักใบเขียว อาหารที่มีโปรตีน และวิตามินสูง
- พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอแต่ไม่หักโหม เช่น เปลี่ยนจากวิ่งมาเป็นเดินช้า ๆ และทำจิตใจให้สดชื่นแจ่มใส
- ทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามปกติ แต่ปรับให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย

วิธีการรักษา โดยการให้เลือด หรือยาฉีดกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งทั้งหมดนี้จะขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์โดยประเมินจากสภาวะของผู้ป่วย
 

มีจุดเลือดหรือจ้ำเลือด
อาการ มีจุดเลือดหรือจ้ำเลือดขึ้นตามตัว เลือดกำเดาไหล เลือดออกตามไรฟัน มีจุดแดงเล็ก ๆ ที่ตาขาว ลำตัว แขน และขา ประจำเดือนมามาก หากเป็นแผลเลือดออก 
เลือดจะหยุดไหลได้ช้า แม้ว่าจะเป็นแผลขนาดเล็กก็ตาม
สาเหตุ เกิดจากจำนวนเกล็ดเลือดต่ำหลังได้รับยาเคมีบำบัด

วิธีป้องกันการเกิดแผลเลือดออกหรือบรรเทาอาการ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดบาดแผล หรือเกิดการบาดเจ็บ เช่น ปั่นจักรยาน ขี่มอเตอร์ไซด์ ตัดไม้ผ่าฟืน ตัดเย็บเสื้อผ้า หรือทำฟัน
- เลือกการออกกำลังกายเบา ๆ ไม่หักโหม เช่น เดิน ว่ายน้ำ เป็นต้น
- ใช้ที่โกนหนวดไฟฟ้าแทนใบมีดโกน เพราะทำให้เกิดแผลน้อยกว่า
- ใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม ๆ 
- ไม่ควรซื้อยากินเอง เช่น แอสไพริน ยาแก้ปวดคลายกล้ามเนื้อบางชนิดที่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร เพราะจะไปรบกวนการทำงานของเกล็ดเลือด 
และทำให้เลือดออกในทางเดินอาหารได้
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

วิธีการรักษา แพทย์อาจพิจารณาให้เกล็ดเลือดในรายที่มีจำนวนเกล็ดเลือดต่ำ และ/หรือมีอาการเลือดออก

 

คลื่นไส้ อาเจียน    

อาการ อาจเกิดขึ้นหลังจากได้รับยา 2-3 ชั่วโมง หรือหลังจากรับยาแล้วนานเป็นวัน ท่านอาจรู้สึกว่ามีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวในปาก เวลาเรออาจมีน้ำดีที่มีลักษณะ
สีเขียวๆ และเปรี้ยวออกมาด้วย
สาเหตุ อาจเกิดจากยา โรค หรือความเครียด

วิธีป้องกัน แพทย์มักจะให้ยาป้องกันการอาเจียน ก่อนที่จะให้ยาเคมีบำบัด

วิธีบรรเทาอาการ
- รับประทานอาหารอ่อน ๆ ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ขนมปัง แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารร้อนเพราะมีกลิ่น และทำให้ท่านรู้สึกอยากอาเจียนมากขึ้น
- รับประทานอาหารเหลว ใส หรือเครื่องดื่มเย็น ๆ เช่น น้ำผลไม้ น้ำขิง โดยใช้หลอดดูดช่วย
- รับประทานทีละน้อย แต่บ่อยมื้อ
- หลีกเลี่ยงอาหารกลิ่นฉุน รสจัด อาหารมัน อาหารทอด เพราะจะทำให้ท่านรู้สึกอยากอาเจียนมากขึ้น
- ทำความสะอาดปากและฟันหลังทานอาหารทุกมื้อ
- พักผ่อนมาก ๆ หากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจ เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือดูรายการโทรทัศน์ที่ชอบ
- รับประทานยาแก้คลื่นไส้อาเจียนตามแพทย์สั่ง
หากมีอาการอาเจียนมากกว่า 3 ครั้งต่อ 1 ชั่วโมง อาเจียนเป็นเลือดหรือมีน้ำดีปนออกมา อาเจียนมากจนไม่สามารถรับประทานอาหารได้นานกว่า 1 วัน 
อาเจียนมากจนไม่สามารถรบประทานยาได้ หากมีอาการเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่ง ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที

 
เจ็บปากเจ็บคอ

อาการ อาจมีแผลหรือมีอาการปวดแสบ ปวดร้อนในปาก ช่องปากและเหงือกมีสีแดงเป็นมัน บวม และไวต่อความร้อนเย็นของอาหาร ริมฝีปากแห้ง มีเลือดออก 
มีฝ้าขาว มีหนอง หรือมีเมืองในปากมากขึ้น
สาเหตุ ยาเคมีบำบัดอาจมีผลทำลายเซลล์เยื่อบุช่องปากได้

วิธีบรรเทาอาการ
- อมน้ำแข็ง หรือรับประทานไอศกรีม เพราะความเย็นจะช่วยบรรเทาอาการได้
- รับประทานอาหารอ่อน กลืนง่าย รสจืด ไม่ร้อนจัด และอาจใช้หลอดดูดช่วย เช่น นมเปรี้ยว น้ำซุป น้ำขิง หรือนมเย็น เป็นต้น
- บดอาหารที่แข็งหรือย่อยยากก่อนรับประทาน เช่น ขนมปังกรอบ
- บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ 2-3 ครั้งต่อวัน (น้ำยาบ้วนปากที่มีขายทั่วไปจะมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ จะทำให้เจ็บปากมากขึ้น จึงควรผสมน้ำให้เจือจางก่อนใช้)
- แปรงฟัน 2-3 ครั้งต่อวัน ด้วยแปรงสีฟันขนนุ่ม
- ทาริมฝีปากให้ชุ่มชื่นอยู่เสมอด้วยลิปสติกมัน หรือวาสลิน
- รักษาความชุ่มชื่นของเยื่อบุช่องปากอยู่เสมอ โดยดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
- งดใส่ฟันปลอมในระหว่างรับยาเคมีบำบัด
- งดสูบบุหรี่ งดเคี้ยวหมากพลู และงดดื่มสุรา
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร ผักและผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น อาหารประเภทยำ ส้ม มะนาว รวมทั้งน้ำอัดลมด้วย
- หากมีแผลบริเวณปาก หรือมีอาการเจ็บปากเจ็บคอรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ อาจมีการติดเชื้อโรคเริมได้ จึงควรรีบมาพบแพทย์โดยด่วน

 
ท้องเสีย

อาการ ถ่ายอุจจาระเหลว หรือถ่ายเป็นน้ำมากกว่าปกติ
สาเหตุ อาจเกิดจากโรค ยาก หรือการติดเชื้อ

วิธีบรรเทาอาการ
- รับประทานอาหารที่สุก สะอาด
- รับประทานอาหารอ่อน ย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ไข่ มันนึ่ง หรือมักกะโรนี เป็นต้น
- รับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย เช่น กล้วย ข้าว ขนมปัง หรืออาหารเหลว เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงอาหารมัน เผ็ด ทอด และอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผักและผลไม้สด เพราะจะกระตุ้นให้ท้องเสียมากขึ้น
- งดดื่มนม และผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว กาแฟใส่นม และน้ำผลไม้ทุกชนิด
- ดื่มน้ำมาก ๆ  อาจดื่มน้ำเกลือแร่ หรือน้ำชาจีนแทนได้
- หลังถ่ายอุจจาระเสร็จทุกครั้ง ให้ล้างทำความสะอาดบริเวณทวารหนัก แล้วซับให้แห้ง
- สังเกตุผิวหนังบริเวณทวารหนักว่าแห้ง แดง แตก มีอาการเจ็บมีเลือดออกปนมากับอุจจาระ หรือมีไข้หรือไม่ ถ้ามีอาการเหล่านี้ควรรีบปรึกษาแพทย์
หากมีอาการรุนแรงมาก ควรรีบมาพบแพทย์โดยด่วน ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง

 
ท้องผูก

อาการ ถ่ายอุจจาระลำบาก ต้องออกแรงเบ่งมากเนื่องจากอุจจาระแห้งแข็ง ไม่ถ่ายอุจจาระตามเวลาที่เคยถ่าย หรือไม่ถ่ายอุจจาระติดต่อกัน 3 วัน
สาเหตุ อาจเกิดจากโรค ยา การติดเชื้อ การรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย หรือดื่มน้ำน้อย

วิธีบรรเทาอาการ
- รับประทานอาหารที่มีกากใยให้มากขึ้น เช่น ผัก ผลไม้ ข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือ
- ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว อาจเป็นน้ำผลไม้ เช่น น้ำส้ม น้ำมะนาว น้ำมะตูม น้ำตะไคร้ และน้ำลูกพรุน เป็นต้น
- ออกกำลังกายและหมั่นเคลื่อนไหวร่างกายตามความสามารถอย่างสม่ำเสมอ
- เมื่อปวดถ่ายอุจจาระไม่ควรกลั้นไว้
ห้ามใช้ยาถ่ายแบบสวนทวารเอง โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาก่อน หากมีอาการรุนแรงมาก เช่น ไม่ถ่ายอุจจาระติดต่อกัน 3 วัน อุจจาระมีเลือดปน 
ปวดเกร็งที่ท้อง คลื่นไส้อาเจียนอยู่เรื่อง ๆ ควรรีบมาพบแพทย์โดยด่วน
 

ผมร่วง
ยาเคมีบำบัดบางชนิดอาจทำให้ผมร่วงได้ แต่ไม่ต้องกังวล เมื่อจบการรักษาแล้ว ผมจะงอกขึ้นมาใหม่เอง

วิธีบรรเทาอาการ
- ตัดผมสั้น จะทำให้ดูแลง่าย และดูเหมือนมีผมหนากว่า
- ใช้แชมพูอ่อน ๆ เช่น แชมพูเด็ก
- ใช้แปรงขนนิ่ม หวีซี่ห่าง ๆ และอย่าหวีผมบ่อย
- ถ้าจำเป็นต้องใช้ที่เป่าผม ควรใช้ลมธรรมดา ไม่ใช้ลมร้อน
- ไม่ควรดัด หรือย้อมผม เพราะน้ำยาดัดหรือน้ำยาย้อมผมอาจระคายเคืองหนังศีรษะที่มีผมปกคลุมน้อย
- อาจใช้น้ำมันเพิ่มความชุ่มชื้น หรือโลชั่นสำหรับหนังศีรษะ เพื่อช่วยลดอาการคันและแห้งของหนังศีรษะ
- อาจใช้วิก หรือผ้าคลุมผมเพื่อเสริมบุคลิกภาพ

 
ผิวหนังและเล็บเปลี่ยนสี

อาการ ผิวหนังและเล็บแห้ง หยาบ มีสะเก็ด มีสีดำคล้ำ อาการนี้จะเกิดขึ้นชั่วคราว เมื่อหยุดยาก็จะหายไป

วิธีบรรเทาอาการ
- ทาครีม หรือโลชั่น ให้ผิวชุ่มชื้น
- หลีกเลี่ยงการถูกแดดจ้า
- สวมเสื้อแขนยาว สวมหมวก หรือใช้ร่มเพื่อป้องกันแสงแดด
- ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน
- ตัดเล็บให้สั้น และดูแลให้สะอาดอยู่เสมอ
- เวลามีอาการคัน ห้ามเกา ให้ถูเบา ๆ ด้วยฝ่ามือ กด บีบ สั่น หรือแกว่งอวัยวะแทน
- สวมเสื้อผ้าหลวม ๆ ที่มีเนื้อผ้าอ่อนนุ่ม บางเบา
- เปลี่ยนผ้าปูที่นอนบ่อย ๆ 
- อยู่ในที่อากาศเย็นสบาย อากาศถ่ายเทได้สะดวก
 

ฝ่ามือฝ่าเท้ามีสีแดง หรือดำคล้ำและเจ็บ

อาการนี้จะเกิดขึ้นชั่วคราว เมื่อหยุดยาแล้วจะหายไปเอง แต่อาจใช้เวลานาน

วิธีบรรเทาอาการ
- ประคบเย็นที่ฝ่ามือฝ่าเท้า
- ใช้โลชั่นบำรุงผิวทาฝ่ามือฝ่าเท้า
หากฝ่ามือฝ่าเท้ามีอาการบวม แดง ผิวหนังลอก หรือเจ็บมาก ควรปรึกษาแพทย์
 

ชาปลายมือปลายเท้า

อาการนี้มักเป็นอยู่นาน สามารถกลับคืนเป็นปกติได้ แต่อาจใช้เวลานาน

วิธีบรรเทาอาการ
- นวด
- ออกกำลังกายแบบยืดกล้ามเนื้อ
- ปรึกษาแพทย์เพื่อรับวิตามิน หรือยาบรรเทาอาการ
หากมีอาการรุนแรงมากจนไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ ควรรีบปรึกษาแพทย์


 

ความสามารถในการมีเพศสัมพันธ์และการมีบุตรลดลง

ยาเคมีบำบัดบางชนิดอาจมีผลต่อการทำงานของอวัยวะสืบพันธุ์ ทั้งยังขึ้นอยู่กับอายุและสภาพร่างกายทั่วไปของท่านด้วย

เพศชาย
  • ผิวหนังบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์อาจมีอาการคัน แห้ง เจ็บ ทำให้มีเพศสัมพันธ์ได้ยาก อาจใช้ครีมหล่อลื่นช่วย
  • ยาเคมีบำบัดอาจมีผลต่อการผลิตอสุจิ และความสามารถในการเคลื่อนไหวของอสุจิ จึงอาจทำให้มีลูกยาก
  • ในผู้ป่วยที่แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อขอคำแนะนำในการเก็บอสุจิไว้ในธนาคารอสุจิ
    (วิธีการนี้สามารถทำได้ในบางโรงพยาบาลเท่านั้น และค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง)
  • ควรใช้ถุงยางอนามัยและไม่ควรมีบุตร ระหว่างการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด
เพศหญิง
  • ช่องคลอดอาจมีอาการแห้ง ทำให้มีเพศสัมพันธ์ได้ยากหรือเจ็บ อาจใช้ครีมหล่อลื่นช่วย
  • ยาเคมีบำบัดอาจมีผลต่อรังไข่ และอาจทำให้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ จึงอาจทำให้มีลูกยาก
  • ในผู้ป่วยที่แต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีบุตรควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อขอคำแนะนำในการเก็บไข่ไว้ในธนาคาร
    (วิธีการนี้สามารถทำได้ในบางโรงพยาบาลเท่านั้น และค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง)
  • ควรคุมกำเนิดในระหว่างให้ยาเคมีบำบัด เพราะยาเคมีบำบัดหลายชนิดอาจมีอันตรายต่อทารกในครรภ์

อารมณ์

สาเหตุ อาจมีอารมณ์แปรปรวน หรือมีความกังวลสูง ซึ่งอาจเป็นผลมาจากโรคหรือยาก็ได้

วิธีบรรเทาอาการ
- ควรจะทำจิตใจให้สดชื่นแจ่มใส ไม่ท้อถอยต่อการรักษา และจำไว้เสมอว่าอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นจะหายไปเมื่อจบการรักษาแล้ว
- ญาติควรเอาใจใส่ พูดคุยให้กำลังใจอยู่เสมอ
- ทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ ไม่ต้องงดอะไร แต่ปรับกิจกรรมที่ทำให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของท่าน
- พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หรือหางานอดิเรกทำ


ท่านควรรีบมาพบแพทย์ทันทีถ้ามีอาการดังต่อไปนี้ (รีบไปสถานพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุด)
  • มีอาการซีดมาก อ่อนเพลียมาก เหนื่อยหอบ หรือหน้ามืดมีไข้ (วัดไข้ซ้ำอีกครั้งใน 1 ชั่วโมงต่อมา หากยังมีไข้ให้รีบมาโรงพยาบาลทันที โดยห้ามกินยา
    ลดไข้เด็ดขาด) หรือมีอาการหนาวสั่น ปวดศีรษะ โดยเฉพาะเมื่อมีไข้ในช่วง 7-14 วัน หลังได้รับยาเคมีบำบัด
  • มีจุดเลือดจ้ำเลือดขึ้นตามตัว หรือมีเลือดออกตามไรฟัน เลือดกำเดาไหล มีจุดแดงที่ตาขาว ลำตัว แขน และขา
  • อาการข้างเคียงต่าง ๆ มีความรุนแรงมากขึ้น เช่น ท้องเสียรุนแรง ปวดศีรษะรุนแรง
  • น้ำหนักเพิ่มขึ้น หรือลดลงอย่างรวดเร็ว
  • มีผื่น หรือตุ่มขึ้นตามร่างกาย
  • สูญเสียการทรงตัว

จำนวนคนเข้าใช้งาน

0 3 1 2 2 0

ข้อมูลในเว็บ chulacancer.net นี้เป็นข้อมูลเชิงวิชาการ การนำไปใช้รักษาผู้ป่วยแต่ละรายอาจมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย สาขารังสีรักษา
และมะเร็งวิทยาคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะไม่รับผิดชอบต่อผลที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติตามข้อมูลนี้ กรุณาปรึกษาแพทย์

istanbul escort istanbul escort şişli escort tbilisi escort şişli escort şişli escort ümraniye escort şişli escort maslak escort istanbul escort beşiktaş escort taksim escort izmir escorts ümraniye escort mecidiyeköy escort şişli escort taksim escort ümraniye escort kartal escort şirinevler escort maltepe escort kadıköy escort vip escort mersin escort ataköy escort avcılar escort beylikdüzü escort okmeydanı escort şişli escort tuzla escort işitme cihazı sex shop sex shop sex shop sex shop sex shop sex shop sex shop sex shop istanbul escorts çekmeköy escort esenler escort bahçeşehir escort çapa escort topkapı escort merter escort aksaray escort halkalı escort