การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
โรคมะเร็ง | วิธีตรวจคัดกรอง |
คำแนะนำ USPSTF |
คำแนะนำ CTFPHC |
คำแนะนำของ นักวิชาการไทย |
ปากมดลูก |
1. Papanicolaou smear |
- ควรทำทุก 1 ปี สำหรับ ทุกคนที่มีอายุ 18 ปี หรือ 21 ปี ขึ้นไป ถ้าผลปกติ ทุกปีจึงเริ่มเว้นช่วงห่าง เมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป หยุดทำเมื่ออายุ 70 ปี |
- ควรทำทุก 1 ปี ในคนที่มีเพศสัมพันธ์ หรืออายุมากกว่า 18 ปี หลังจากปกติ 2 ครั้งติดต่อกันต่อไป ทำทุก 3 ปี จนถึงอายุ 69 ปี |
- ควรทำทุก 1 ปี ในหญิงทุกคนที่ อายุ 35-55 ปี และแนะนำใน หญิงทุกคนที่เคย มีประวัติเคยมี เพศสัมพันธ์แล้ว ถ้าปกติติดต่อกัน 3 ปี ต่อไปทำทุก 3 ปี |
2. Liquid-based cytology | - อาจทำหรืออาจไม่ทำ | - ไม่มีคำแนะนำ | - ไม่มีคำแนะนำ | |
3. HPV testing | - อาจทำหรืออาจไม่ทำ | - ไม่มีคำแนะนำ | - ไม่มีคำแนะนำ |
แนวทางในการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก
ในปี ค.ศ. 2002 American Cancer Society ได้จัดประชุมร่วมกับองค์กรต่าง ๆ ที่ดูแลด้านสุขภาพในประเทศสหรัฐอเมริกา
ได้แก่ American College of Obstetricians and Gynecologists, American Society of Colposcopy and
Cervical Pathology (ASCCP), American Social Health Association เป็นต้น ได้ข้อสรุปดังนี้
1. ควรเริ่มการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก ในสตรีภายหลังเริ่มมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 3 ปี หรือเมื่อมีอายุครบ 21 ปี
2. ระยะห่างของการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก ถ้าเป็นการตรวจด้วย conventional Pap smear ควรทำทุกปี
แต่ถ้าตรวจด้วย liquid-based cytology ควรตรวจทุก 2 ปี
3. ถ้าผลการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูก เป็นปกติติดต่อกัน 3 ครั้ง และสตรีนั้นไม่มีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ต่อการเกิดมะเร็ง
ปากมดลูก เช่น ประวัติเคยได้รับ diethylstilbestrol (DES) ตั้งแต่อยู่ในครรภ์, มีการติดเชื้อ HIV หรือมีภูมิต้านทานบกพร่อง
จากการปลูกถ่ายอวัยวะ หรือได้รับยาเคมีบำบัด, สูบบุหรี่, มีคู่นอนหลายคน, มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นต้น อาจจะเว้นระยะ
ห่างของการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกเป็นทุก 2-3 ปี
4. ในผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ, รับยาเคมีบำบัด, รับยา steroid อย่างต่อเนื่องหรือติดเชื้อ HIV
ควรได้รับการตรวจปีละ 2 ครั้งในปีแรก หลังจากนั้นปีละ 1 ครั้ง
5. ผู้ที่ได้รับการตัดมดลูกแล้วไม่จำเป็นต้องตรวจมะเร็งปากมดลูก ยกเว้นผู้ป่วยที่เคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น CIN 2/3 หรือ
ผู้ป่วยที่เคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก กรณีดังกล่าวยังได้รับการตรวจภายในอีกอย่างน้อย 10 ปี
การเตรียมตัวก่อนรับการตรวจ
-
ต้องไม่มีการตรวจภายในมาก่อน 24 ชั่วโมง
-
ไม่มีการเหน็บยาในช่องคลอดมาก่อน 48 ชั่วโมง
-
ห้ามล้างหรือทำความสะอาดภายในช่องคลอดมาก่อน 24 ชั่วโมง
-
งดการมีเพศสัมพันธ์คืนวันก่อนมารับการตรวจ
วิธีการตรวจ Pap smear technique
-
ใส่ปลายแหลมของ Modified Ayre Spatula เข้าในรูปากมดลูก
-
ดันส่วนโค้งของ Spatula ชิดปากมดลูก
-
หมุน Spatula ด้วยแรงกด จนคิดว่าได้เซลล์จากทุกจุดในบริเวณปากมดลูกทั้งข้างนอกและใน
-
ป้ายลงบนแผ่นกระจกโดยวางขนาน
-
ค่อย ๆ ลาก Spatula ไปปลายใสของแผ่นกระจก ป้านไปทางเดียว
-
ทำอย่างรวดเร็วและเกลี่ยให้บาง
-
แช่ในขวดน้ำยา Alcohol
|
|